ย้อนตำนาน Game boy ทุกรุ่นของเครื่องเกมพกพาสุดเก๋า retrogame

 Game Boy เป็นเครื่องเล่นเกมพกพาขนาดเล็กที่ถูกพัฒนาโดย Nintendo และเปิดตัวครั้งแรกในปี 1989 

ยุค Game boy classic (GB)

Game Boy (DMG-001)(GB) (1989)

Game boy รุ่นแรกหรือที่เรียกกันว่า เกมบอยอ้วน ใช้แบตเตอรี่ AA 4 ก้อนเป็นแหล่งจ่ายไฟ และสามารถเล่นเกมได้นานถึง 15 ชั่วโมงต่อการใช้งานเดียว หน้าจอขาวดำ โดยรุ่นแรกจะหน้าจอจะเป็นdot matrix สีออกเขียวๆ

Game boy รุ่นแรกผลิตในปี 1989, วางจำหน่ายในญี่ปุ่นในวันที่ 21 เมษายน 1989 วางจำหน่ายในอเมริกาเหนือในเดือนกรกฎาคม 1989 และวางจำหน่ายที่ยุโรป 28 กันยายน 1990

หน้าจอเป็น LCD ขนาด 2.6 นิ้ว dot matrix เทคโนโลยีแสดงผล TN ความละเอียด 160 x 144 พิกเซล แสดงผลสีเขียว 4 สีมีความคมชัดและแสงสว่างเพียงพอสำหรับการเล่นเวลากลางวัน แต่ก็ยังมีปัญหาเรื่องการมองเห็นจอในที่ที่มีแสงน้อย หรือกลางคืน เนื่องจากหน้าจอไม่มีไฟ ต้องใช้วิธีปรับคอนทราสหน้าจอให้เข้ากับสภาพแสง

ส่วน cpu ใช้เป็น Sharp LR35902 4.19 mhz 8-bit สองคอร์

ram 8 KB

ขนาดเครื่อง 90.0 x 148.8 x 32.4 มิลลิเมตร น้ำหนักประมาณ 400 กรัม

ปุ่มกด มี ปุ่ม A B อยู่ที่ด้านขวา ปุ่มบังคับทิศางที่อยู่ที่ด้านซ้าย ปุ่ม Start ใช้สำหรับเริ่มต้นการเล่นเกมส์หรือหยุดการเล่นเกมส์ ปุ่ม Select ใช้สำหรับเลือกเมนูหรือการตั้งค่า อยู่ที่ตรงกลาง ปุ่มปรับระดับเสียงอยู่ด้านซ้าย ปุ่มปรับคอนทราสของหน้าจออยู่ด้านขวา ปุ่มปิดเปิดอยู่ข้างบนเครื่องเมื่อเสียบตลับแล้วกดเปิดเครื่องจะมีสลักเลื่อนมาล็อคตลับ

นอกจากนั้นยังมีช่องเสียบไฟdc กับช่องเสียบสายลิ้งค์ในการเชื่อมต่อกับเครื่องอื่นได้ และช่องเสียบหูฟังอยู่ข้างล่างตัวเครื่อง

ราคา $89.99 - $99 (USD) ในปี 1989-2003

สีเทา และสีนํ้าเงิน แดง ดำ เหลือง ออกตามาภายหลัง 

โดยการเล่นเกมต้องเล่นกับตลับเกม โดยตลับจะมีขนาดความจุ 256 kB - 8 MB สามารถอ่านตลับของ Game Boy Color ได้บางตลับ

แต่ยังคงแสดงผลแบบขาวดำ ตัวตลับมีขนาดประมาณ 6.6 x 5.7 x 1.2 เซนติเมตร สามารถมีเซฟเกมภายในตัวตลับได้เลย 

อุปกรณ์เสริมของเครื่อง Game boy 

เครื่อง Game boy ยังได้มีอุปกรณ์เสริมออกมาเพื่อเพิ่มความสะดวกในการเล่นที่แสนลำบากในยุคนั้น

Handy boy 

ในปี 1994 และได้วางจำหน่ายในตลาดในช่วงปีเดียวกัน ผลิตโดยบริษัท InterAct Accessories Inc.ที่เสริม ไฟส่องหน้าจอ ลำโพงเสริม ก้านอนาล็อก เลนส์ขยายหน้าจอ และอื่นๆ 

Handy Power

วางจำหน่ายครั้งแรกในปี1997 ผลิตโดยบริษัท InterAct Accessories Inc. เช่นเดิม โดยเป็นแบตเตอรี่ชนิด NiMH rechargeable battery pack ซึ่งสามารถชาร์จได้ด้วย AC adapter แทนการใช้ถ่านAA และต่อมาในปี 1998 ก็ได้เพิ่มรุ่นที่รองรับกับ Game Boy Color 

ปี 1998 Handy Boy II มีส่วนขยายสำหรับเสียงและเครื่องสั่นสะเทือน สาย USB สำหรับการเชื่อมต่อกับเครื่องคอมพิวเตอร์ 

Game Boy Camera

อุปกรณ์ที่ทำให้ Game Boy ใช้ถ่ายภาพได้ โดยบริษัท Nintendo Co., Ltd. และวางจำหน่ายครั้งแรกในปี ค.ศ. 1998 ที่ญี่ปุ่น และต่อมาวางจำหน่ายทั่วโลกในปี ค.ศ. 1999 ราคาเฉลี่ยเมื่อวางจำหน่าย 30-50 USD 

game boy printer 

ใช้สำหรับพิมพ์รูปภาพที่ถ่ายไว้ด้วย Game Boy Camera มีฟังก์ชันให้ผู้ใช้สามารถตั้งค่าการพิมพ์ได้ตามต้องการ เทคโนโลยีพิมพ์แบบเมทริกซ์ ผลิตโดยบริษัท Nintendo Co., Ltd. และวางจำหน่ายครั้งแรกในปี 1998 ที่ญี่ปุ่น และต่อมาวางจำหน่ายทั่วโลกในปี 1999 ราคาของ Game Boy Printer ตอนนั้นอยู่ที่ประมาณ 50-70 USD 

Nintendo light boy

วางจำหน่ายโดย Nuby ในปี 1998 เป็นไฟส่องหน้าจอเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการเล่นเกมของ Game Boy ในสภาพแวดล้อมที่มืด ด้วยแสง LED

sunsoft sound boy

ที่วางจำหน่ายโดยบริษัท Sunsoft ในปี 1991 อุปกรณ์ที่ทำหน้าที่เพิ่มเสียงให้เครื่องเกมบอย

sunsoft wide boy

อุปกรณ์ขยายหน้าจอให้กับเครื่องเกมบอย

konami hyperboy

ผลิตโดยบริษัท Konami ในปี 1991 เสริมไฟส่องหน้าจอ จอขยาย ก้านอนาล็อก

BOOSTERBOY

ผลิตโดยบริษัท Saitek ในปี 1994 อุปกรณ์เพิ่มประสิทธิภาพให้กับเครื่องเกมบอย ใช้ถ่าน AA 4 ก้อน สามารถในการปรับความสว่างของหน้าจอได้ และยังมีเสียงเตือนเมื่อถ่านกำลังจะหมด

GAME GENIE

อุปกรณ์ที่ทำให้ผู้เล่นสามารถเปลี่ยนแปลงรหัสของเกมเพื่อเพิ่มสิ่งต่างๆ เช่น เงิน, ชีวิต, โกงเกมนั้นแหละครับ โดยเสียบเข้ากับเครื่องเล่นเกมและเมื่อเริ่มเล่นเกมจะต้องป้อนรหัสที่ต้องการเพิ่มเติมเข้าไป 

WorkBoy

คีย์บอร์ดสำหรับเกบอยที่ออกแบบมาเพื่อเพิ่มฟังก์ชันการทำงานในการเขียนเอกสารและตารางงาน ??(ห้ะ) พัฒนาโดยบริษัท Fabtek สังกัดภายใต้ Nintendo ได้เปิดตัวในงาน CES ในปี 1992 แต่ไม่เคยวางจำหน่ายอย่างเป็นทางการ เชื่อมต่อกับ Game Boy ผ่านพอร์ตสายลิ้งค์ 

Game Boy Pocket (MGB-001)(1996) 

เป็นเครื่องเล่นเกมที่บางและเบากว่ารุ่นเดิม และมีหน้าจอขนาดเล็กกว่า 

ผลิตในปี 1996, วางจำหน่ายในญี่ปุ่นในวันที่ 21 กรกฎาคม 1996 และวางจำหน่ายในอเมริกาเหนือในเดือนสิงหาคม 1996 ราคาวางจำหน่าย 6,990 เยน ในญี่ปุ่น และ 69.99 ดอลลาร์สหรัฐฯในสหรัฐอเมริกา

ใช้ CPU ชนิดเดียวกับ Game Boy รุ่นแรก ที่เป็น Sharp LR35902 โดยมีความเร็ว 4.19 MHz เพิ่ม RAM เป็น 32 KB จากรุ่นแรกที่มี RAM เพียง 8 KB

หน้าจอ LCD เทคโนโลยี STN สีเทา 4 สี ขนาด 2.6 นิ้ว ความละเอียด 160 x 144 พิกเซล มีความคมชัดและการแสดงสีที่ดีกว่าเทคโนโลยีแบบ TN ใน Game Boy รุ่นแรก แต่ยังไม่มีไฟหน้าจอทำให้ต้องปรับคอนทราสให้เข้ากับสภาพแสงในการเล่นเหมือนเดิม

ลำโพงเป็นแบบสเตอริโอ

ปุ่มบังคับทิศทาง ปุ่มกด A B อยู่ที่ตำแหน่งเดิมเหมือนกับ Game Boy รุ่นแรก ปุ่ม Start และ Select อยู่ที่ตรงกลางเปลี่ยนเป็นแนวนอน ปุ่มปรับระดับเสียง ปุ่มปรับคอนทราสของหน้าจอ อยู่ที่ตำแหน่งเดิมเหมือนกับ Game Boy รุ่นแรก ปุ่มปิดเปิดอยู่ข้างบนเครื่องแต่จะไม่มีสลักเลื่อนมาล็อคตลับแล้ว 

ยังคงมีช่องเสียบไฟdc กับช่องเชื่อมต่อ Link Cable และช่องเสียบหูฟังอยู่ตำแหน่งเดิม

เปลี่ยนมาใช้ถ่าน AA เพียง 2 ก้อน

ขนาดตัวเครื่อง 76.0 x 133.0 x 25.0 มิลลิเมตร 

สีเทา, น้ำเงิน, แดง, และเขียว

อุปกรณ์เสริม 

HandyPak

อุปกรณ์เสริมสำหรับเครื่อง Game Boy Pocket ที่พัฒนาโดยบริษัท InterAct Accessories Inc. การใช้งานนั้นเหมือนกับ Handy boy 

Nintendo Game Boy Pocket Sonar

Game Boy Light( MGB-101)(1998) 

เป็นรุ่นพิเศษที่มีหน้าจอใช้ไฟ LED เพื่อเพิ่มความสว่างในการเล่นในที่มืดได้

ผลิตในปี 1998, วางจำหน่ายในญี่ปุ่นเท่านั้นในวันที่ 21 ธันวาคม 1998 ราคา 6800 เยน

ใช้ CPU จาก Game Boy Pocket CPU Sharp LR35902 8-bit processor ความเร็ว: 4.19 MHz

RAM 32 KB

หน้าจอ LCD  ขนาด 2.35 นิ้ว ที่มีความละเอียด 160 x 144 พิกเซลและสามารถแสดงผลสีเทา 4 ระดับ 

 ขนาดตัวเครื่อง 73.0 x 118.0 x 23.0 มิลลิเมตร 

ใช้ถ่าน AA  2 ก้อน 

ตัวเครื่อง สีเงิน

โดยรวมสเปกหมือนกันกับ Game Boy Pocket มีแค่เพิ่มไฟหน้าจอมาเท่านั้น

และผู้เขียนอยากแนะนำ 3 เกมน่าเล่นแถมยังเป็นเกมที่ยอดขายสูงสุดของเครื่อง Game Boy ยุค classic (GB)

 
Tetris 

ก็terisนั้นแหละครับ ที่ผู้เล่นต้องวางบล็อกที่ตกลงมาโดยใช้สมองในการคิดและเลือกตำแหน่งที่จะวางบล็อก เพื่อให้บล็อกเรียงกันเป็นแถวเพื่อนำไปทำลายได้และเก็บคะแนน ออกมาเมื่อปี 1989 ยอดขายมากกว่า 35 ล้านชุดทั่วโลก

Pokemon Red/Blue/Green/Yellow

ต้นกำเนิดแห่งซีรีย์โปเกม่อน ที่ภายหลังก็ได้มีการดัดแปลงเป็นมังงะและอนิเมะรวมถึงภาคต่อที่ยาวนานจนถึงปัจจุบัน

ในเกมผู้เล่นจะต้องจับโปเกมอนต่างๆ และประลองเอาชนะเทรนเนอร์โดยใช้พวกโปเกมอนที่มี ได้ถูกพัฒนาโดยบริษัท Nintendo และ Game Freak โดย Satoshi Tajiri เป็นผู้สร้าง ผลิตและวางจำหน่ายในญี่ปุ่น 27 กุมภาพันธ์ 1996 วางจำหน่ายในอเมริกา 30 กันยายน 1998 ยอดขายประมาณ 31.38 ล้านชุด

 Super Mario Land 

คือเกมมาริโอ้บน Game Boy โดยเกมนี้จะคล้ายๆกับ Super Mario brothers บน Famicom แต่สามารถพกไปเล่นที่ไหนก็ได้ ถือว่าน่าตื่นเต้นมากในยุคนั้น 

โดยเกมผู้เล่นจะต้องช่วย Mario ในการเดินทางผ่านด่านต่างๆ และฆ่าศัตรูต่างๆ เพื่อช่วย Princess Daisy ที่(ขยัน)ถูกจับตัวไปโดย บาวเซอร์ Super Mario Land พัฒนาโดย Nintendo R&D1 และเผยแพร่โดย Nintendo ในปี 1989 เป็นเกมมาริโอ้เกมแรกบนในแพลตฟอร์มที่ไม่ใช่ NES หรือ Famicom ทำขายไปเกือบ 19 ล้านชุดทั่วโลก

ยุค Game Boy Color (GBC)

Game Boy Color (CGB-001)(GBC) (1998) 

รุ่นนี้เป็นมีการอัพเกรดหน้าจอสีและสามารถเล่นเกมสีได้ และสามารถเล่นตลับของ Game boy ได้ แต่ยังคงไม่มีไฟหน้จอ

ผลิตในปี 1998, วางจำหน่ายในญี่ปุ่นในวันที่ 21 พฤษภาคม 1998 และวางจำหน่ายในอเมริกาเหนือในเดือนพฤศจิกายน 1998 ราคา $69.99 มีสีม่วง, น้ำเงิน, แดง, เขียว, เหลือง, สีน้ำตาล และสีใส

ขนาดตัวเครื่อง 75.0 x 133.0 x 27.0 มิลลิเมตร 

CPU ของ Game Boy Color เป็นแบบเดียวกับที่ใช้ใน Game Boy Classic คือ Sharp LR35902  8-bit แต่มีความเพิ่มขึ้นเป็น 8 MHz ใช้เทคโนโลยี CMOS ในการผลิต 

ตลับเกมจะมีความจุ 2 MB - 8 MB 

อุปกรณ์เสริม

Worm Light

PulsePak

ลำโพงเสริมสำหรับเครื่อง Game Boy ที่พัฒนาโดยบริษัท InterAct

ยุค Game Boy Advance(GBA)

Game Boy Advance (AGB-001)(GBA) (2001) 

มีการเปลี่ยนดีไซน์ใหม่เป็นแบบแนวนอน มีหน้าจอสี เล่นตลับ GB GBC ได้

ผลิตครั้งแรกในปี 2001 และวางจำหน่ายในต้นปี 2002 

โดยมีราคาเริ่มต้นที่ $99.99 

ขนาด:82 x 144.5 x 24.5 มม.

น้ำหนัก: 140 กรัม

หน้าจอ: 2.9 นิ้ว (240 x 160 พิกเซล)

สี: ม่วง, น้ำเงิน, แดง, โปร่งใส, ขาว 

ตลับเกมมีความจุตั้งแต่ 8 MB - 32 MB

มีเกมที่เป็นเอ็กซ์คลูซีฟ เช่น The Legend of Zelda: The Minish Cap และ Metroid Fusion 

Game Boy Advance SP (2003)  

อัพเกรดหน้าจอให้มีไฟหน้าจอที่สามารถปรับความสว่างได้ เปลี่ยนดีไซน์เป็นแบบฝาพับ เปลี่ยแบตเตอรี่เป็นแบบชาทได้

 ผลิตปี 2003 วางจำหน่าย 14 มีนาคม 2003 (ในญี่ปุ่น)

ขนาดเครื่อง 82 x 84.6 x 24.3 มม.

หน้าจอสี 2.9 นิ้ว (240 x 160 พิกเซล) 

น้ำหนัก 143 กรัม

สี ดำ, น้ำเงิน, แดง

ราคา: $99.99

นอกจากนี้ยังมีรุ่นพิเศษ Famicom Edition ที่มีดีไซน์ตามโฉมตัวเครื่อง Famicom

Game Boy Micro (2005) 

เป็นรุ่นสุดท้ายของ Game Boy ที่มีขนาดเล็กที่สุด 

ผลิตปี 2005 วางจำหน่าย 13 กันยายน 2005 (ในญี่ปุ่น)

ขนาดเครื่อง 101 x 50 x 17.2 มม.

หน้าจอ 2 นิ้ว (240 x 160 พิกเซล)

น้ำหนัก 80 กรัม

สี: สีเงิน, สีดำ, สีน้ำเงิน, สีแดง

ราคา: $99.99