อร่อยสุขภาพดีด้วย ช็อกโกแลต ที่เราควรรู้
ช็อกโกแลตนั้นเป็นผลผลิตมาจากเมล็ดโกโก้
ซึ่งชนเผ่ามายันเมื่อกว่า 1500
ปีก่อนถือว่าโกโก้เป็นอาหารของเทพเจ้าเลยทีเดียวและหากผู้อ่านคิดว่าชาวมายันคิดเป็นตุเป็นตะไปเองก็ขอบอกว่าชาวแอซแทค
ซึ่งเป็นชนเผ่าโบราณก็เชื่อว่าเครื่องดื่มจากผงโกโก้ ที่เรียกว่า Chocolate ช่วยรักษาอาการท้องเสียและโรคบิดได้
เท่านั้นยังไม่พอ ชาวอินเดียนแดงยังตามมาตอกย้ำด้วยความเชื่อว่า
สูตรเครื่องดื่มช็อกโกแลตของตนนั้นให้ผลดีต่อระบบทางเดินอาหารและป้องกันเยื่อบุคอและจมูกอักเสบ
และถ้าหากคุณผู้อ่านยังคิดว่านี่เป็นแค่ความเชื่อของคนโบราณ
เราก็ขอนำเสนอ
ฟลอเรนซ์ ไนติงเกล นางพยาบาลผู้เสียสละที่คนทั่วโลกรู้จักกันดี
เธอระบุให้ช็อกโกแลตเป็นหนึ่งในองค์ประกอบของชุดครัวเคลื่อนที่สำหรับนางพยาบาล
ยืนยันกันมาขนาดนี้แล้ว
แสดงว่าช็อกโกแลตก็ต้องมีเค้าความดีด้านสุขภาพอยู่บ้างจริงไหมคะ
ประวัติดีๆของช็อกโกแลตนี้เองที่ได้นำพาให้นักวิจัยและนักโภชนาการทั้งหลายหันมาศึกษาช็อกโกแลตอย่างเป็นเรื่องเป็นราว
ทำให้ค้นพบข้อมูลที่น่าสนใจต่อไปนี้
1. ช็อกโกแลตมีสาร Phenylethylamine ซึ่งช่วยกระตุ้นความดันเลือดและเพิ่มอัตราการเต้นหัวใจ
เลือดลมจึงสูบฉีดดี
โดยเราจะพบสารนี้ในร่างกายยามที่เกิดความรู้สึกรักหรือปรารถนาด้วย
(ที่มาของการมอบช็กโกแลตในเทศกาลวันแห่งความรัก)
2. ช็อกโกแลตมีสาร Theobromine ทำให้เกิดอาการกระปี้กระเปร่ากระตุ้นให้ร่างกายหลั่งสารเอนโดฟินส์
ซึ่งเป็นสารแห่งความสุข บรรเทาอาการเจ็บปวด
(ที่มาของการทานช็อกโกแลตยามเมื่ออกหัก)
3. ช็อดโกแลตมีสาร Polyphenol ในปริมาณมากกว่าชาถึง 4 เท่า
ซึ่งสารนี้มีคุณสมบัติเป็นสารต้านอนุมูลอิสระที่ช่วยชะลอความแก่และป้องกันมะเร็ง
4. ช็อกโกแลตมีกรดไขมันโอลีอิก
ที่ช่วยลดอัตราการเกิดมะเร็งเต้านม
5. ช็อกโกแลตนั้นทำมาจากผงโกโก้
ซึ่งผงโกโก้อุดมไปด้วยแร่ธาตุที่จำเป็นต่อร่างกาย เช่น ธาตุเหล็ก โปแตสเซียม
ฟอสฟอรัส แคลเซียม แมกนีเซียม
6. และเสริมท้ายด้วยผลงานวิจัยว่า
ช็อกโกแลตช่วยบรรเทาอาการหงุดหงิดปวดท้องก่อนมีประจำเดือน ช่วยให้สมองตื่นตัว
แก้อาการเมาค้าง
เหล่าสรรพคุณของช็อกโกแลตมามากมายขนาดนี้
แฟนคลับช็อกโกแลตทั้งหลาย อย่าพึ่งรีบร้อนไปหาซื้อมาทานกันนะคะ เพราะช็อกโกแลตที่มีขายส่วนใหญ่
และได้รีบความนิยมนั้นมักเป็นช็อกโกแลตนมหรือช็อกโกแลตปรุงแต่งส่วนผสมต่างๆจึงมีรสหวาน
ทำให้การทานช็อกโกแลตประเภทนี้โดยไม่ระมัดระวังจะทำให้ฟันผุ และน้ำหนักขึ้นได้
อีกทั้งปริมาณโกโก้ก็ไม่ได้สสูงมากนัก จึงขอแนะนำให้ทานช็อกโกแลตแบบ Dark chocolate ซึ่งมีปริมาณของโกโก้สูง
ส่วนปริมาณน้ำตาลอาจหลากหลายกันไปตามยี่ห้อ
ควรดูที่ฉลากเป็นสำคัญแต่ทั้งนี้ทั้งนั้นหากคุณผู้อ่านท่านใดงอแงอยากทานช็อกโกแลตหวานๆของโปรด
เราก็ไม่อาจบังคับใจได้ ได้แต่แนะนำว่าควรทานแค่เพียงวันละ 50 กรัม ( 1 แท่ง )
จึงจะเป็นปริมาณที่พอเหมาะพอควรแล้วอย่าลืมแปรงฟันและออกกำลังกาย
เท่านี้โรคอ้วนและฟันผุเพราะช็อกโกแลตจะได้ไม่มาเยือนนะคะ
ข้อมูลจาก : อพวช.
ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น