Ned Kelly จอมโจรและวีรบุรุษ เรื่องจริงในประวัติศาสตร์
เน็ด เคลลี (Ned Kelly) เป็นจอมโจรชื่อดังชาวออสเตรเลีย เชื้อสายไอริชแต่สำหรับคนบางกลุ่มเขาคือวีรบุรุษผู้ลุกขึ้นต่อต้าน อำนาจรัฐจากรัฐบาลอาณานิคมภายใต้การปกครองของจักรวรรดิอังกฤษ
ภูมิหลังและชีวิตของเน็ดนั้นเรียกได้ว่าบัดซบมาก บิดาของเขาเป็นชาวไอริช เรด เคลลี ถูกทางการอังกฤษจับกุมและถูกลงโทษให้ใช้แรงงาน7ใน ฟานไดเมนส์แลนด์ (รัฐแทสเมเนียประเทศออสเตรเลีย) จนกระทั้งปี1848 เขาได้รับการปล่อยตัวเรดมาใช้ชีวิตอยู่ที่รัฐวิตอเรียและแต่งงานกับลูกสาวเจ้าของฟาร์มมีลูกด้วยกัน8คนซึ่งเน็ดเป็นบุตรชายคนที่สาม
ดูแล้วเหมือนทุกอย่างจะเริ่มปกติสุขใช่ไหม? แต่ครอบครัวของเขาถูกกลันแกล้งจากทางรัฐมาโดยตลอดและเรดตกเป็นผู้ต้องสงสัยในหลายคดีและถูกลงโทษให้ใช้แรงงาน6ปีจรกระทั่งเริ่มล้มป่วยและเสียชีวิตในที่สุด
ยังไม่พอครอบครัวของเขาถูกกล่าวหาว่าทำผิดต่างถึง18 ครั้ง จนทำให้ เน็ด ถูกประกาศให้กลายเป็นคนนอกกฎหมาย
ความบัดซบทั้งหมดทำให้เน็ดต้องกลายมาเป็นโจร เขามีส่วนร่วมในการปล้นธนาคาร robberies และฆ่าตำรวจทำให้ถูกประกาศจับทั่วออสเตรเลีย
และเรื่องที่ดังที่สุดของ เน็ด เคลลี จนกลายมาเป็นตำนาน
ค.ศ.1880 เน็ด เคลลี่ และแก๊งของเขา จับตัวประกันกว่า 70 ชีวิต ไว้ที่โรงแรมเล็กๆ ในเมืองเกลนโรแวน (Glenrowan) ซึ่งภายนอกโรงแรมเต็มไปด้วยตำรวจหลายนายที่แห่มาจับกุม(ประมาณว่ามึงไม่รอดแน่ๆ) แต่กลับกัน เน็ด เปิดประตูออกมาจากโรงแรมและสิ่งที่ตำรวจเห็นคือเขาส่วนเกราะเหล็กทั้งตัวตั้งแต่หัวมาถึงต้นขา(มีชุดเกราะอีก3ที่สมาชิกส่วม)
เน็ดยืนเปิดศึกดวลปืนกับตำรวจนับร้อยด้วยปืนสั้นกระบอกเดียว ฝนห่ากระสุนสาดเข้าใส่เน็ดแบบเต็มๆจนเน็ดล้มลง สิ้นสุดกระสุนปืนตำรวจคงคิดว่าเน็ดตายห่าไปแล้วแน่ๆแต่เหลือเชื่อเขายังมีลมหายใจอยู่ เนื่องจากไม่มีเกราะส่วนล่างทำให้ถูกยิงที่ขา ซึ่งสมากชิกในแก๊งของเขานั้นตายหมด
เน็ดศาลตัดสินประหารชีวิตแขวนคอ และคำพูดสุดท้ายของ เน็ด เคลลี
"Such is life" (นี้แหละชีวิต)
ก่อนการประหารนั้นมีบันทึกไว้ว่าประชาชนออสเตรเลียได้รวบรวมรายชื่ออุทธรณ์ต่อข้าหลวงอังกฤษเพื่อขอยกเว้นโทษประหาร เน็ด เคลลี แต่ไม่สำเร็จ
เรื่องราวของเขายังถูกถ่ายทอดเป็นภาพยนต์เรื่อง Ned Kelly วีรบุรุษแดนเถื่อน
ทีแสดงโดย ฮีท เลดเจอร์ อีกด้วย
ภูมิหลังและชีวิตของเน็ดนั้นเรียกได้ว่าบัดซบมาก บิดาของเขาเป็นชาวไอริช เรด เคลลี ถูกทางการอังกฤษจับกุมและถูกลงโทษให้ใช้แรงงาน7ใน ฟานไดเมนส์แลนด์ (รัฐแทสเมเนียประเทศออสเตรเลีย) จนกระทั้งปี1848 เขาได้รับการปล่อยตัวเรดมาใช้ชีวิตอยู่ที่รัฐวิตอเรียและแต่งงานกับลูกสาวเจ้าของฟาร์มมีลูกด้วยกัน8คนซึ่งเน็ดเป็นบุตรชายคนที่สาม
ดูแล้วเหมือนทุกอย่างจะเริ่มปกติสุขใช่ไหม? แต่ครอบครัวของเขาถูกกลันแกล้งจากทางรัฐมาโดยตลอดและเรดตกเป็นผู้ต้องสงสัยในหลายคดีและถูกลงโทษให้ใช้แรงงาน6ปีจรกระทั่งเริ่มล้มป่วยและเสียชีวิตในที่สุด
ยังไม่พอครอบครัวของเขาถูกกล่าวหาว่าทำผิดต่างถึง18 ครั้ง จนทำให้ เน็ด ถูกประกาศให้กลายเป็นคนนอกกฎหมาย
ความบัดซบทั้งหมดทำให้เน็ดต้องกลายมาเป็นโจร เขามีส่วนร่วมในการปล้นธนาคาร robberies และฆ่าตำรวจทำให้ถูกประกาศจับทั่วออสเตรเลีย
และเรื่องที่ดังที่สุดของ เน็ด เคลลี จนกลายมาเป็นตำนาน
ค.ศ.1880 เน็ด เคลลี่ และแก๊งของเขา จับตัวประกันกว่า 70 ชีวิต ไว้ที่โรงแรมเล็กๆ ในเมืองเกลนโรแวน (Glenrowan) ซึ่งภายนอกโรงแรมเต็มไปด้วยตำรวจหลายนายที่แห่มาจับกุม(ประมาณว่ามึงไม่รอดแน่ๆ) แต่กลับกัน เน็ด เปิดประตูออกมาจากโรงแรมและสิ่งที่ตำรวจเห็นคือเขาส่วนเกราะเหล็กทั้งตัวตั้งแต่หัวมาถึงต้นขา(มีชุดเกราะอีก3ที่สมาชิกส่วม)
เน็ดยืนเปิดศึกดวลปืนกับตำรวจนับร้อยด้วยปืนสั้นกระบอกเดียว ฝนห่ากระสุนสาดเข้าใส่เน็ดแบบเต็มๆจนเน็ดล้มลง สิ้นสุดกระสุนปืนตำรวจคงคิดว่าเน็ดตายห่าไปแล้วแน่ๆแต่เหลือเชื่อเขายังมีลมหายใจอยู่ เนื่องจากไม่มีเกราะส่วนล่างทำให้ถูกยิงที่ขา ซึ่งสมากชิกในแก๊งของเขานั้นตายหมด
"Such is life" (นี้แหละชีวิต)
ก่อนการประหารนั้นมีบันทึกไว้ว่าประชาชนออสเตรเลียได้รวบรวมรายชื่ออุทธรณ์ต่อข้าหลวงอังกฤษเพื่อขอยกเว้นโทษประหาร เน็ด เคลลี แต่ไม่สำเร็จ
เรื่องราวของเขายังถูกถ่ายทอดเป็นภาพยนต์เรื่อง Ned Kelly วีรบุรุษแดนเถื่อน
ทีแสดงโดย ฮีท เลดเจอร์ อีกด้วย
ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น